วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เข้! อาหารจีนรสเด็ด จัดซักไม้มั๊ย




           พี่จีนอีกตามเคยครับผมกับเมนูเด็ดๆชวนน้ำลายสอมื้อนี้ จว๊าย! ไม่เด็ดได้ไงก็พี่แกเล่นจับน้องตุ้งเข้ตัวเบิ้มๆใส่ถาดโชว์หราหน้าร้านรอเสียบไม้ย่างกันซะขนาดนี้ ใครอยากลองลิ้มชิมรสพี่เข้ย่างแบบนี้ก็ไปซื้อกันได้เลยที่ประเทศจีน แต่ราคานี่โหดเอาเรื่องอยู่ ที่เห็นเสียบๆอยู่นี่พี่จีนเค้าคิดไม้ละ 20หยวน หรือประมาณ100กว่าบาท ดูไปดูมาก็เหมือนหมูปิ้งบ้านเราเหมือนกันนะเนี่ย มีข้าวเหนียวให้ปั้นกินซักหน่อยคงจะเด็ดไม่น้อยเลยทีเดียวเชียว

         

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สาวนุ่งสั้นขึ้นไปหลับบนรถตัวรวจประท้วงผัวโดนจับ แบบนี้ก็ได้เหรอเจ๊

          เป็นอีกคลิปหนึ่งที่มีการแชร์กันกระหน่ำโดยเรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศจีน ก็เป็นเรื่องฮาๆที่ใครจะคิดล่ะว่าจะมีคนกล้าทำจริงๆ เมื่อแม่สาวน้อยที่คาดว่าน่าจะตั้งครรภ์อ่อนๆด้วยมั๊ง นุ่งกระโปรงซะสั้นเสมอหูขึ้นไปนอนหลับสบายใจบนฝากระโปรงรถตำรวจ หลังจากไม่พอใจที่สามีถูกตำรวจจับข้อหาเมาแล้วขับ ทำเอาคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นตกอกตกใจกันเป็นแถวๆ ก็นับว่าเป็นหนึ่งไอเดียที่น่าจำไปใช้ เอ้ยไม่ช่ายย! ก็นับว่าเป็นเรื่องขำๆยามไม่ได้สิ่งที่ต้องการ แบบนี้มันยิ่งกว่าเด็กร้องไห้ตอนพ่อไม่ซื้อของเล่นให้อีกนะเนี่ย


วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

น่าประทับใจ หนูน้อยพิการโย้นเครื่องช่วยเดินทิ้ง เข้าเส้นชัยด้วยขาตัวเอง

 

         มาร่วมชมนาทีสุดประทับใจ เมื่อหนูน้อยวัยแปดขวบที่พิการเดินไม่ได้ต้องใช้เครื่องช่วยเดินที่มีลักษณะเป็นล้ออย่างที่เห็น ได้เข้าร่วมวิ่งแข่งมาราธอนที่ไหนซักแห่ง แต่เมื่อใกล้จะถึงเส้นชัยหนูน้อยกลับตัดสินใจที่จะปล่อยเครื่องช่วยเดินทิ้งไว้ข้างล้าง แล้วมุ่งสู่เส้นชัยด้วยตนเอง ถึงจะล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายรอบแต่ก็วิ่งถึงเส้นได้อย่าสง่างามท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้ชมทั้งสนาม แหมเจ้าหนู แค่แข่งวิ่งอย่างเดียวก็ถือว่าสุดยอดแล้วนะ นี่ถึงกับวิ่งเองอีก พี่ล่ะยอมใจหนูจริงๆ


วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559

คุณมีความพร้อมแล้วหรือยังที่จะซื้อบ้าน สำรวจตัวเองด่วน

                   เชื่อว่าหนึ่งในเป้าหายของหลายๆคนก็คือการได้มีบ้านในฝันเป็นของตัวเองสำหรับอาศัยอยู่กับคนที่เรารัก แต่ก็ใช่ว่าทุกๆคนจะสามารถทำตามความฝันนี้ได้เสมอไปเพราะการจะซื้อบ้านหลังนึงก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเพราะทำให้เราต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มในระยะยาว มาดูกันดีกว่าว่าคุณมีความพร้อมแค่ไหนที่จะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง


ซื้อบ้าน
ภาพจาก news.mthai


สำรวจเงินสดในกระเป๋า
การจะซื้อบ้านครั้งนึงอย่างน้อยๆต้องใช้เงินดาวน์เป็นเงินสดจำนวนหนึ่ง โดยปกติจะประมาณ20%ของราคาบ้านที่เราซื้อ แถมปกติแล้วธนาคารักจะไม่ให้เรากู้เงินได้เต็ม100%อยู่แล้ว นั่นแปลว่าค่าส่วนต่างที่เหลือเราต้องรับหน้าที่จ่ายเองไปก่อน ดังนั้นถ้าเงินสดในมือเรามีน้อยเกินไปล่ะก็ เลิกฝันไปซักพักแล้วเก็บเงินเพิ่มอีกซักหน่อยก่อนดีกว่า

มีหนี้สินมากเกินไปมั๊ย
เช็คด่วนว่าตอนนี้เราติดหนี้อะไรใครไว้บ้าง เพราะถ้าแค่ทุกวันนี้ยังต้องทำงานเพื่อใช้หนี้อยู่ล่ะก็ จะเอาเงินที่ไหนไปผ่อนบ้านล่ะจริงมั๊ย ทางที่ดีหยุดก่อนหนี้เพิ่มและรีบชำระหนี้เก่าให้หมดก่อนดีกว่าเนอะ

การงานมั่นคงพอแล้วเหรอ
ลองดูตัวเองก่อนว่างานที่ทำอยู่นั้นมีความมั่นคงขนาดไหน ถ้าดูแล้วอีกไม่เกินปีโดนไล่ออกแน่นอน อันนี้บอกเลยว่าอย่าเพิ่งริจะซื้อบ้านใหม่ คงไม่มีใครอยากถูกยึดบ้านทั้งที่ยังผ่อนไม่หมดหรอกจริงมั๊ย หรือว่างานที่ทำอยู่นั้นคุณไม่ชอบเลย อีกไม่นานจะหางานใหม่ทำแน่นอน แล้วถ้างานใหม่ที่หาได้ดันไปอยู่อีกโซนนึงล่ะ


เดินทางบ่อยแค่ไหน
บางหมู่บ้านต้องเสียค่าส่วนกลางตลอด ถ้าคุณเดินทางบ่อยไม่ค่อยได้อยู่บ้านก็เท่ากับว่าคุณเสียส่วนนี้ไปฟรีๆ หรือถ้าใครคิดว่าเงิแค่นี้ไม่เป็นปัญหาล่ะก็ คุณรับได้มั๊ยที่จะต้องทิ้งบ้านไว้นานๆเพราะต้องเดินทางไปนู่นมานี่ เพราะบ้านที่ไม่ค่อยมีคนอยู่นี่แหละ เป้าหมายของโจรขโมยเลย



ที่มา :TerraBKK.com


วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559

อยากเก่งต้องอ่าน! คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเขาทำกันอย่างไร

เทคนิคประสบความสำเร็จ
ภาพจากหนังสือพิมพ์โพสทูเดย์



              แทนที่จะมาเสียเวลาลองผิดลองถูกกันเอาเอง ทำไมไม่ลองหาแนวทางจากประสบการณ์ของคนที่เขาทำแล้วสำเร็จดูล่ะ มาดูกันที่กว่าว่าคนที่เก่งๆ ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเขาทำกันอย่างไร


มองโลกในแง่ดี
ยิ่งเราเจอกับอะไรก็แล้วแต่ที่ส่งผลต่อจิตใจด้านลบ ไม่ว่าจะเป็นการถูกดุด่า ถูกปฏิเสธ หรือวิจารณ์ต่างๆนาๆ จะส่งผลให้ร่างกายเริ่มอยู่ในสภาวะเครียดซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดี เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จคือความสุข ถ้าทำอะไรด้วยความสุขก็จะมีกำลังใจทำงาต่อได้ไม่เหน็ดเหนื่อย แทบไม่รู้สึกว่ามันทำงานด้วยซ้ำ แต่ใชีวิตจริงเราไม่สามารถเลือกได้ว่าจะต้องเจอแต่สิ่งด้านบวกเท่านั้น เพราะงั้นจึงต้องมองโลกในแง่ดียังไงล่ะ

ไม่ลืมเป้าหมาย
ในทุกๆวันอย่าลืมว่าเป้าหมายของเราคืออะไร และที่ทำอยู่นี้เพื่ออะไร เพียงแค่นี้ก็สามารถสร้างแรงผลักดันให้คุณสามารถไปถึงเป้าหมายได้มากขึ้นแล้ว

หนักสามเบาหนึ่ง
เป็นสัดส่วนที่กำลังพอดีระหว่างทำงานกับหยุดพัก ร่างกายเราจะอ่อนล้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสุขภาพสายตาเมื่ออยู่หน้าคอมหรือหนังสือเกินกว่า45นาที เทคนิคก็คือเมื่อทำงานหนักจนครบ45นาทีแล้วให้เราหยุดพักไปดื่มน้ำ พักสายตา พักสมอง สูดอากาศภายนอกบ้างซัก15นาที แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ เชื่อมั๊ยว่าเทคนิคนี้ช่วยให้เราสามารถทำงานได้นานขึ้นโดยที่ไม่เหนื่อยเลยเชียวแหละ



วิธีใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่เพอร์เฟคก็มีความสุขได้

สร้างความสุข


               ใครๆก็ปราถนาชีวิตที่สมบูรณ์แบบหน้าสวยพ่อรวยเรียนเก่งเป๊ะเวอร์กันทั้งนั้น แต่ถึงแม้ราจะไม่เกิดมาโชคดีขนาดนั้นก็ใช่ว่าจะต้องมานั่งอมทุกข์เสมอไปนี่นา ถ้าใครเกิดรู้สึกชีวิตไม่มีความสุขล่ะก็ ลองวิธีที่เราแนะนำดูสิ

1.หัดให้อภัยตัวเองซะบ้าง
               ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยทำผิดพลาดเลยทั้งชีวิต นอกจากคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย เพราะฉะนั้นอย่าโทษตัวเอง จงคิดว่าเราทำดีแล้ว ไม่ว่าผลของันจะออกมาเป็นยังไงก็จงยอมรับมันให้ได้ หรือถึงแม้ผลมันจะแย่เกินกว่าจะทำใจ ทำไมไม่เอาเวลานั่งโทษตัวเอง มาทำอะไรอย่างอื่นเพื่อแก้มือซะล่ะ

2.อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
              หลายๆคนไม่ชอบเวลาที่ตัวเองถูกผู้ใหญ่เอาไปเปรียบเทียบกับลูกบ้านอื่น แต่ก็น่าแปลกที่ก็ดันเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นซะเอง บางคนรู้สึกต่ำต้อยเมื่อเห็นคนอื่นได้ดีกว่า แต่อย่าลืมว่าคนที่ได้ดิบได้ดีเหล่านั้นอาจจะไม่มีความสุขเลยก็ได้ ลูกข้างบ้านที่เป็นหมอ ได้ดิบได้ดี เป็นที่เชิดหน้าชูตาวงศ์ตระกูล รู้ได้ยังไงว่าเขามีความสุข เพราะเขาอาจเป็นหมอเพราะถูกแม่บังคับก็ได้ใครจะไปรู้ จงดูคนที่เขาด้อยกว่าเราแล้วยังสร้างความสุขให้ตัวเองได้อยู่สิ คนเหล่านั้นต่างหากที่น่ายกย่อง

3.มองข้ามวิกฤตก็จะเห็นโอกาส
               ลองคิดบวกดูบ้างจะทำให้ชีวิตเป็นสุขขึ้น การโดนแฟนทิ้งอาจดูเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจ คุณไม่จำเป็นต้องมานั่งร้องไห้แต่งกลอนอกหัก แต่ให้ลองมองเป็นเรื่องดีว่า ต่อไปนี้ชีวิตเราจะเป็นอิสระ เราจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง เห็นมั๊ยว่าในเรื่องเลวร้ายก็ยังมีเรื่องดีๆอยู่

4.อย่าคาดหวังให้มาก
              ยิ่งคาดหวังไว้สูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งผิดหวังมากเท่านั้น ถ้าเราไม่หวังมากเกินไป เพียงแค่ทำให้ดีที่สุด ก็สามารถสร้างความสุขให้เราได้มาก บางทีผลลัพท์มันอาจจะดีกว่าเดิมก็ได้ ใครจะไปรู้

5.ความสุขเล็กๆ ก่อเกิดพลังที่ยิ่งใหญ่
              ความสุขที่แท้จริงแล้วคืออะไร การได้กินอาหารหรูๆมื้อละหลายพันทุกวัน หรือการได้กินข้าวแกงถุงจากปากซอยพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว บางครั้งเป้าหมายในชีวิตก็อาจทำให้เราพลาดความสุขอะไรไปได้หลายๆอย่าง ลองหาความสุขเล็กๆทำดูบ้าง บางคนอาจมีความสุขกับการท่องเที่ยว หรือบางคนอาจมีความสุขกับการสวดมนต์ก่อนนอน แต่เชื่อว่าทุกคนย่อมมีความสุขเล็กๆเป็นของตัวเองกันหมดแน่นอน

ทำยังไงดี ถ้าอยากมีเงินเก็บ



อยากมีเงินเก็บ
               ตัวเลขรายรับที่มากไม่ได้บ่งบอกว่าเราจะรวยเสมอไป สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ยอดคงเหลือหรือเงินเก็บต่างหาก มาดูกันดีกว่าว่ามีเทคนิคใดบ้างที่จะช่วยให้เรามีเงินเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นหรือนำมาต่อยอดทำธุรกิจเพื่ออนาคต

1.ชื่อแบรนด์ไม่ใช่สิ่งสำคัญ
               บางคนติดชื่อแบรนด์มากเกินไป ประมาณว่าชั้นจะต้องใช้ของแบรนด์นี้เท่านั้น แต่ถ้ามันแพงเกินความจำเป็นล่ะก็ลองดูของที่ราคาถูกลงมาหน่อยก็ได้ บางครั้งแบรนด์กลางๆคุณภาพอาจดีกว่าแบรนด์หรูๆที่คุณเคยใช้ซะอีก ถ้าเลือกยึดติดเรื่องแบรนด์ไปได้ล่ะก็รับรองเลยว่าคุณจะประหยัดเงินไปได้อีกเยอะ

2.เคลียร์หนี้เก่าๆให้เรียบร้อย
               เป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะมีเงินเก็บโดยที่ยังเป็นหนี้อยู่ เพราะฉะนั้นใครที่ติดค้างอะไรไว้ทั้งหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อต่างๆ แนะนำให้รีบเคลียร์ให้เรียบร้อย โปะได้ควรโปะให้หมดโดยไว หรือถ้าใครไม่มั่นใจว่าตัวเองจะหนักแน่นพอที่จะไม่รูดซื้อของที่ราคาล่อในมีโปรโมชั่นผ่อน0%แล้วล่ะก็ อย่าทำบัตรเครดิตไว้เลยเป็นดีที่สุด

3.วางแผนให้ดีก่อนไปเที่ยว
               หลังจากทำงานาเหนื่อยๆก็ไปเที่ยวบ้างก็ได้ แต่ก็ควรวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าก่อนหลายๆเดือน เช่นการจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแร หรือกระทั่งแพคเกจท่องเที่ยวส่วนใหญ่ถ้าจองล่วงหน้ากันนานๆจะมีส่วลดให้ถูกจากเดิมเยอะเลยทีเดียว ยิ่งถ้าวางแผนจะไปช่วงโลวซีซั่นด้วยอีกจะทำให้ค่าใช้จ่ายนั้นลดลงไปได้มาก นอกจากนี้ยังสามารถวางแผนการเก็บเงินได้ด้วย

4.เงินก้อนโต อย่าใช้รวดเดียวหมด
               ไม่ว่าจะถูกหวย เงินปันผล แทงบอลได้ หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าคิดจะนำไปซื้อความสุขด้วยการใช้ตูมเดียวเกลี้ยงล่ะก็ ขอเลยว่าอย่า ทางที่ดีควรเอาไปทำให้มันงอกเงยด้วยการลงทุนทำธุรกิจอะไรซักอย่างให้มีประโยชน์ระยะยาวจะดีกว่า

5.คำว่าไม่ หัดพูดเอาไว้เลย
               ถ้ามีใครชวนไปกิน เที่ยว หรือใช้จ่ายจะไรที่คิดว่าเป็นการสิ้นเปลืองเกินไปล่ะก็ หัดส่ายหน้าปฏิเสธเอาไว้เลยไม่ว่าจะกิฟบุฟเฟต์ ท่องเที่ยวนอกรอบ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ หลายคนหมดตัวเพราะเกรงใจเพื่อนฝูง เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากมีเงินเก็บล่ะก็ควรปฏิเสธให้เป็นนะบอกเลย

6.ค่าธรรมเนียม ค่าทำเนียน
                ค่าธรรมเนียมต่างๆให้ระวังให้ดี บางครั้งเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เช่นการเบิกเงินผ่านตู้ ATM ถ้าไม่จำเป็นจริงๆอย่าไปเสียเงินให้มันเลย ถึงจะแค่10-20บาท แต่หลายครั้งเข้ามันก็น่าเสียดายไม่ใช่เหรอ



                เห็นมั๊ยว่าการมีเงินเก็บไม่ได้ยากเย็นอะไร ลองยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงพออยู่ พอกิน ท่องเอาไว้เลย เชื่อว่าทุกคนเคยเรียนกันมาแล้วตั้งแต่ประถม การไม่ใช้จ่ายเกินตัวนี่แหละหัวใจหลักของการมีเงินเก็บล่ะ แรกๆอาจจะยาก แต่ลองดูแล้วจะรู้ว่าก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่ เพียงแต่เราต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้แค่นั้นเอง เอาเข้าจริงมันง่ายซะยิ่งกว่าลดน้ำหนักเสียอีก จริงมั๊ย